Digicert

นอกจากใบรับรอง SSL ขั้นพื้นฐานแล้ว ใบรับรอง OV SSL ยังรวมข้อมูลขององค์กร (เช่น บริษัท องค์กรไม่แสวงหากำไร บริษัทมหาชน มูลนิธิ สถาบันการศึกษา โรงเรียน หน่วยงานสวัสดิการสังคม ฯลฯ) ซึ่งเป็นเจ้าของโดเมน เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบองค์กร จึงทำให้กระบวนการใช้เวลานานขึ้น โดยปกติหลังจากสมัคร หน่วยงานที่ออกใบรับรองจะขอให้องค์กรส่งเอกสารยืนยันตัวตน (เช่น ใบทะเบียนธุรกิจ) เพื่อยืนยันการมีอยู่ขององค์กร จากนั้นหน่วยงานจะทำการตรวจสอบด้วยมือและเก็บบันทึกไว้

*ใบรับรอง OV SSL จะตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตนขององค์กร เพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในระดับที่สูงขึ้น

นอกจากการตรวจสอบเอกสารขององค์กรแล้ว ใบรับรอง EV SSL ยังรวมถึงการตรวจสอบภูมิหลังจริง เช่น การตรวจสอบที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และการสอบถามธุรกิจ เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจที่จดทะเบียนตรงกับการดำเนินงานจริงและสามารถติดต่อองค์กรได้ เนื่องจากกระบวนการตรวจสอบเพิ่มเติมนี้ การออกใบรับรอง EV SSL โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1 ถึง 3 วัน

สำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ แนะนำอย่างยิ่งให้ใช้ใบรับรอง EV SSL เพราะให้ระดับความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้ใช้งาน เมื่อเบราว์เซอร์เจอใบรับรอง EV SSL จะไม่เพียงแต่แสดงว่าสถานที่นั้นปลอดภัย แต่ยังแสดง URL สีเขียวและแสดงชื่อองค์กรที่ได้รับการยืนยันในแถบที่อยู่ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ว่าทั้งเว็บไซต์และองค์กรที่อยู่เบื้องหลังนั้นน่าเชื่อถือ

*หน่วยงานออกใบรับรองบางแห่งสำหรับใบรับรอง EV SSL ยังมีการรับประกันการชดเชยความเสียหาย หากเกิดความเสียหายใดๆ จากใบรับรอง EV SSL หน่วยงานที่ออกจะชดเชยตามขอบเขตที่กำหนดไว้ตามเงื่อนไข

เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ใบรับรอง Wildcard SSL" โดยส่วนใหญ่บริษัทต่าง ๆ อาจไม่มีหลายโดเมน แต่ในหลายกรณี โดเมนเดียวจะแบ่งออกเป็นหลายซับโดเมนตามความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น อีเมล FTP หรือเว็บไซต์สำหรับประเทศ ภูมิภาค หรือภาษาต่าง ๆ แต่ละซับโดเมนจะมี URL ของตัวเอง หากแต่ละซับโดเมนเหล่านี้ต้องขอใบรับรอง DV หรือ OV แยกกัน การจัดการอาจยุ่งยากมาก แต่ด้วยใบรับรอง Wildcard สามารถติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ และให้สิทธิ์ใบรับรองสำหรับโดเมนเดียวกันได้

*สำหรับองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ที่มีซับโดเมนหลายแห่ง วิธีนี้สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดการได้ เช่น ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสามารถใช้ใบรับรองนี้เพื่อให้ร้านค้าต่าง ๆ เชื่อมต่อผ่าน https ได้

นอกจากใบรับรอง SSL ขั้นพื้นฐานแล้ว ใบรับรอง OV SSL ยังรวมข้อมูลขององค์กร (เช่น บริษัท องค์กรไม่แสวงหากำไร บริษัทมหาชน มูลนิธิ สถาบันการศึกษา โรงเรียน หน่วยงานสวัสดิการสังคม ฯลฯ) ซึ่งเป็นเจ้าของโดเมน เนื่องจากต้องมีการตรวจสอบองค์กร จึงทำให้กระบวนการใช้เวลานานขึ้น โดยปกติหลังจากสมัคร หน่วยงานที่ออกใบรับรองจะขอให้องค์กรส่งเอกสารยืนยันตัวตน (เช่น ใบทะเบียนธุรกิจ) เพื่อยืนยันการมีอยู่ขององค์กร จากนั้นหน่วยงานจะทำการตรวจสอบด้วยมือและเก็บบันทึกไว้

*ใบรับรอง OV SSL จะตรวจสอบเอกสารยืนยันตัวตนขององค์กร เพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในระดับที่สูงขึ้น

นอกจากการตรวจสอบเอกสารขององค์กรแล้ว ใบรับรอง EV SSL ยังรวมถึงการตรวจสอบภูมิหลังจริง เช่น การตรวจสอบที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และการสอบถามธุรกิจ เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกิจที่จดทะเบียนตรงกับการดำเนินงานจริงและสามารถติดต่อองค์กรได้ เนื่องจากกระบวนการตรวจสอบเพิ่มเติมนี้ การออกใบรับรอง EV SSL โดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1 ถึง 3 วัน

สำหรับเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ แนะนำอย่างยิ่งให้ใช้ใบรับรอง EV SSL เพราะให้ระดับความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้ใช้งาน เมื่อเบราว์เซอร์เจอใบรับรอง EV SSL จะไม่เพียงแต่แสดงว่าสถานที่นั้นปลอดภัย แต่ยังแสดง URL สีเขียวและแสดงชื่อองค์กรที่ได้รับการยืนยันในแถบที่อยู่ ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ว่าทั้งเว็บไซต์และองค์กรที่อยู่เบื้องหลังนั้นน่าเชื่อถือ

*หน่วยงานออกใบรับรองบางแห่งสำหรับใบรับรอง EV SSL ยังมีการรับประกันการชดเชยความเสียหาย หากเกิดความเสียหายใดๆ จากใบรับรอง EV SSL หน่วยงานที่ออกจะชดเชยตามขอบเขตที่กำหนดไว้ตามเงื่อนไข

เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ใบรับรอง Wildcard SSL" โดยส่วนใหญ่บริษัทต่าง ๆ อาจไม่มีหลายโดเมน แต่ในหลายกรณี โดเมนเดียวจะแบ่งออกเป็นหลายซับโดเมนตามความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น อีเมล FTP หรือเว็บไซต์สำหรับประเทศ ภูมิภาค หรือภาษาต่าง ๆ แต่ละซับโดเมนจะมี URL ของตัวเอง หากแต่ละซับโดเมนเหล่านี้ต้องขอใบรับรอง DV หรือ OV แยกกัน การจัดการอาจยุ่งยากมาก แต่ด้วยใบรับรอง Wildcard สามารถติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ และให้สิทธิ์ใบรับรองสำหรับโดเมนเดียวกันได้

*สำหรับองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่ที่มีซับโดเมนหลายแห่ง วิธีนี้สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดการได้ เช่น ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสามารถใช้ใบรับรองนี้เพื่อให้ร้านค้าต่าง ๆ เชื่อมต่อผ่าน https ได้